วุ่นวายใจให้ได้รัก - นิยาย วุ่นวายใจให้ได้รัก : Dek-D.com - Writer
×

    วุ่นวายใจให้ได้รัก

    เมื่อคนที่มีอดีตอย่าง "เกม" ต้องมาพบเจอกับเด็กหนุ่มจอมวุ่นวายอย่าง "ไตร" ที่วนเวียนเข้ามายุ่มย่ามในหัวใจให้ปั่นป่วน เค้าควรจะลืมอดีตเพื่อเริ่มต้นใหม่ หรือจะเก็บใจไว้เพื่อตัวเอง???

    ผู้เข้าชมรวม

    173

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    173

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 ก.ย. 56 / 22:10 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    นิยายเรื่องนี้ เป็นนิยาย ชาย-ชาย นะครับ เป็นเรื่องราวที่มาบรรจบกันของเด็กมัธยมและเด็กมหาลัย ไม่มีฉากหวือหวาอะไรมากมาย อ่านเอาสนุกเนาะ...บอกไว้ก่อนเน้อออออออ



    "มองไรพี่ ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีเหรอ" ผมได้สติรู้เรื่องกลับคืนมาจากคำถามกวนเบื้องล่างและหน้าตากวนประสาทของไอ้ตี๋คนนี้ ผมก็เลยทำเนียนมองซ้ายมองขวาดูว่ารถเมล์มาหรือยัง
    "เอ้า ถามไม่ตอบ นี่ยังไม่ได้ขอโทษกันเลยนะที่ชนผมแทบตกรถน่ะ" ผมหันไปมองมันอีกทีด้วยความงุนงง เรื่องแค่เนี้ย อุบัติเหตุเล็กน้อยที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจจะเอาอะไรมากวะ

    "ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ" แต่ผมก็บอกขอโทษมันไปด้วยเสียงห้วนๆ

    "พี่เรียนที่ ABC เหรอ?" ไอ้ตี๋นั่นมองเนคไทที่ผมใส่แล้วถามขึ้นมาซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมาต่อความยาวสาวความยืด

    "อื้ม" ผมตอบแล้วหันหน้าหนีไปมองรถเมล์อีกทางหนึ่ง แต่ตาก็อดที่จะชำเลืองไปมองท่าทางกวนบาทาที่ยืนสบายใจเฉิ่มข้างผมไม่ได้ มันน่าเตะนักไอ้ตี๋เนี่ย


    ผมยืนรออยู่ประมาณห้านาทีรถก็ยังไม่มา ถ้าขืนช้ากว่านี้ไม่ทันแน่ๆเพราะว่ารถเมล์ต้องจอดรับ-ส่งแทบทุกป้าย ผมเริ่มร้อนใจแล้วสิ

    "เป็นไรพี่ ปวดขี้เหรอ เห็นลุกรี้ลุกรน" ไอ้ตี๋มันยังไม่เลิกกวนผมครับ ผมกัดฟันแล้วหันไปมองมันด้วยสายตาพิฆาต
    "สงสัยจะกลัวไปเรียนไม่ทัน ฮ่าๆๆ" ดูมัน กวนได้ใจผมมากจนอยากจะมอบโล่บาทาให้มันไปเลย

    "เออ มีไรป่ะ" ผมตอบกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน

    "ป๊าว" มันหยักไหล่ตอบแล้วยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างสบายใจ ชีวิตมันเคยเครียดบ้างมั้ยเนี่ย ได้ข่าวว่าเด็กมัธยมต้องเข้าเรียนก่อนแปดโมงไม่ใช่เหรอ นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่สิบห้านาทีแต่ยังดูมันลั้นลาสบายใจอยู่เลย ผมยืนมองไอ้ตี๋ที่ยืนลอยหน้าลอยตาก่อนจะชะเง้อไปมองรถฝั่งขวามือแล้วยิ้มแป้นออกมาจนเห็นฟันขาวแล้วมันก็หันมาพูดกับผม
    "ไปก่อนนะพี่ เดี๋ยวเข้าเรียนสาย บ๊ายบาย" มันยกมือโบกเบาๆยิ้มตาหยีเห็นฟันขาวให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่รถเบ๊นซ์สีดำ ยิ่งผมเห็นแบบนั้นมันยิ่งทำให้ผมเกิดอาการหมั่นไส้จนต้องแอบแช่งมันในใจว่าขอให้ไอ้ตี๋ตาตี่นี่หกล้มมันตรงนั้น แต่เหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างผม มันเดินไปถึงรถเปิดประตูโยนกระเป๋าเข้าไปแล้วมันก็หันขวับกลับมามองผมอีกครั้ง ผมจึงรีบหันหน้าหนีทันทีโดยอัตโนมัติ แต่หางตาก็แอบชำเลืองดูมันอยู่เลยเห็นว่ามันกำลังเดินกลับมาทางผม
    "พี่ชาย รีบไปเรียนป่ะ?" หมอนั่นยืนล้วงกระเป๋าถามผม ผมขมวดคิ้วแล้วมองไปที่มัน

    "ทำไม ก็ต้องรีบสิ คนมีธุระ ไม่ได้เอ้อระเหยลอยชายไร้จุดหมายเหมือนกับใครบางคน" ผมเน้นสามคำสุดท้ายแล้วมองไปที่มันด้วยสายตาเฉียบขาดเพื่อบ่งบอกให้มันรู้ว่าไอ้ใครบางคนเนี่ยคือใคร

    "ถ้ารีบ ผมยินดีให้พี่นั่งเบ๊นซ์ฟรีๆไปลงที่มอได้นะครับ ฟรี ไม่คิดตังค์แม้แต่บาทเดียว" ผมไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าทำไมมันต้องทำหน้าแป้นแล้นกวนๆทุกครั้งที่พูด

    "ขอบใจ แต่ว่าไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร กลัวต้องไปพบเจอกันในชาติหน้า"

    "เอาน่า อย่าเล่นตัวนักเลย เดี๋ยวจะไปส่งงานไม่ทัน คะแนนหดหมดไม่รู้ด้วยนา" มันพูดหยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผม คิดว่าหล่อตายเหรอมึง แต่เอ๊ะ! มันรู้ได้ไงว่าผมมีส่งงานเช้านี้

    "เดี๋ยวนะ แกรู้ได้ไงว่าฉันต้องส่งงานวันนี้" ผมถามมันพร้อมจ้องหน้ามันเพื่อนจะคาดคั้นความจริง

    "จะไป...หรือ...ไม่ไป!"

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น